More
    หน้าแรกTechSiri โฉมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence กำลังเผชิญความล่าช้าในการพัฒนา แต่ยังคงอยู่ในแผนเปิดตัวในปี 2026

    Siri โฉมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence กำลังเผชิญความล่าช้าในการพัฒนา แต่ยังคงอยู่ในแผนเปิดตัวในปี 2026

    ถ้าคุณเป็นแฟนตัวยงของ Apple หรือแค่ใช้ iPhone กันแบบชิลๆ อยู่แล้ว คงรู้ดีว่า Siri ผู้ช่วยอัจฉริยะคู่ใจเรามานานหลายปี กำลังจะได้ “อัพเกรด” ใหญ่หลวงด้วยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย แต่ข่าวล่าสุดจาก Tim Cook CEO ของ Apple บอกว่ามันช้ากว่าที่คาดไว้ซะหน่อย นี่ไม่ใช่แค่ข่าวเล็กๆ นะครับ มันสำคัญเพราะ Siri ที่ดีขึ้นจะเปลี่ยนวิธีที่เราพูดคุยกับอุปกรณ์ Apple ได้ทั้งหมด ตั้งแต่ถามทางไปจนถึงจัดการงานประจำวัน ทำให้ชีวิตเราสะดวกและสนุกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ AI อย่าง ChatGPT กำลังมาแรงแบบนี้

    ทำไมข่าวนี้ถึงฮอตตอนนี้? เพราะ Apple ประกาศแผนอัปเกรด Siri ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพิ่งมีอัพเดทจริงๆ จังๆ เมื่อเดือนตุลาคม 2025 หลังจาก WWDC ที่ผ่านมา Tim Cook ยืนยันว่าทีมกำลัง “making progress” หรือกำลังก้าวหน้าอยู่ แม้จะล่าช้ากว่ากำหนด แต่ก็ใกล้จะพร้อมแล้ว สำหรับผู้ใช้ในไทยที่รอคอยฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างการสนทนาที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น นี่คือสัญญาณดีว่าปีหน้า iOS อาจจะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่รออยู่

    Image credit: Apple newsroom

    อะไรใหม่เกิดขึ้น? Tim Cook และทีม Apple กำลังทำอะไร

    มาดูกันว่าข่าวนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างครับ Tim Cook ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2025 ระหว่างงานประชุมนักลงทุน โดยยอมรับว่าการพัฒนา Siri เวอร์ชันใหม่ที่ผสาน AI ขั้นสูงกำลังล่าช้า จากกำหนดการเดิมที่ Apple ประกาศไว้ในงาน WWDC 2024 ซึ่งวางแผนให้ Siri เข้าใจบริบทการสนทนาได้ลึกซึ้งขึ้น รองรับการทำงานหลายขั้นตอน (multi-step tasks) และเชื่อมต่อกับแอปอื่นๆ ได้ดีกว่าเดิม แต่ Cook บอกว่าทีมกำลัง “เร่งมือ” และคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในอัพเดท iOS ครั้งถัดไป

    ใครเกี่ยวข้องหลักๆ? นอกจาก Tim Cook แล้ว ทีมวิศวกร AI ของ Apple ที่นำโดย John Giannandrea (รองประธานฝ่าย AI) เป็นกำลังสำคัญ พวกเขากำลังใช้ชิป Apple Silicon อย่าง A18 และ M-series เพื่อรัน AI บนอุปกรณ์โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์มากนัก ซึ่งต่างจากคู่แข่งอย่าง Google Assistant หรือ Alexa ที่ยังพึ่งเซิร์ฟเวอร์ภายนอก Apple ยังร่วมมือกับ OpenAI เพื่อนำเทคโนโลยี GPT เข้ามาช่วยเสริม Siri แต่เน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้แบบสิ้นหวัง

    เหตุผลที่ล่าช้า? Cook อธิบายว่าการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่า AI ปลอดภัยและแม่นยำ 100% ใช้เวลานานกว่าคาด โดยเฉพาะการจัดการกับ “hallucinations” หรือการตอบคำถามที่ผิดพลาดของ AI ซึ่ง Apple ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้ใช้จริง สรุปคือ มันคือการอัปเกรด Siri สู่ “Apple Intelligence” ที่จะทำให้ Siri ฉลาดขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ต้องรออีกนิด

    ผลกระทบและประโยชน์ต่อผู้ใช้ ธุรกิจ และอุตสาหกรรม

    การอัปเกรด Siri ด้วย AI นี้จะส่งผลดีต่อผู้ใช้ทั่วไปยังไงบ้างครับ? สำหรับวัยทำงานและวัยรุ่นในไทยที่ใช้ iPhone กันเยอะ Siri ใหม่จะช่วยจัดการชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น เช่น สั่งงานแบบต่อเนื่องอย่าง “จองร้านอาหารแล้วเช็คสภาพอากาศพรุ่งนี้” โดยไม่ต้องพูดทีละคำ หรือช่วยสรุปอีเมลยาวๆ ให้สั้นกระชับ ประโยชน์ใหญ่คือความเป็นส่วนตัว เพราะ AI รันบนเครื่อง ไม่ส่งข้อมูลไปเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ปลอดภัยจากแฮกเกอร์หรือการสอดแนม

    สำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะในไทยที่ Apple กำลังขยายตลาด SMEs Siri AI จะช่วยเพิ่ม productivity เช่น เชื่อมต่อกับแอปอย่าง Calendar หรือ Notes เพื่อจัดการประชุมอัตโนมัติ หรือวิเคราะห์ข้อมูลขายของเบื้องต้น นึกภาพบริษัทเล็กๆ ในกรุงเทพฯ ที่ใช้ Siri จัดการสต็อกสินค้าได้ทันที โดยไม่ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์แพงๆ ส่วนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหญ่ๆ อย่าง Samsung หรือ Huawei อาจต้องเร่งพัฒนาผู้ช่วย AI ของตัวเองให้ตามทัน เพราะ Apple กำลังเซ็ตมาตรฐานใหม่เรื่อง AI ที่ “เข้าใจผู้ใช้จริงๆ” ไม่ใช่แค่ตอบคำถามพื้นฐาน

    ผลกระทบเชิงลบ? ถ้าล่าช้านานเกิน อาจทำให้ผู้ใช้หันไปใช้คู่แข่งอย่าง Google Gemini ที่พร้อมใช้งานแล้ว แต่โดยรวม ประโยชน์น่าจะมากกว่าครับ โดยเฉพาะในไทยที่ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตเร็ว ผู้ใช้จะได้ Siri ที่พูดไทยได้คล่องขึ้นในอนาคต

    ตัวอย่างการใช้งานจริงและตัวเลขที่น่าสนใจ

    ลองนึกภาพการใช้งานจริงดูครับ ในงานทดสอบเบต้าของ Apple Intelligence ที่ปล่อยให้ผู้ใช้บางกลุ่มลอง Siri ใหม่สามารถ “เข้าใจอารมณ์” จากข้อความได้ เช่น ถ้าคุณบอก “ฉันเหนื่อยมากวันนี้” Siri อาจแนะนำเพลาดนตรีผ่อนคลายหรือแจ้งเตือนพักผ่อนอัตโนมัติ เคสจริงจากผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่ทดลองแล้ว รายงานว่าการจัดการงานบ้านอย่าง “ปิดไฟทุกห้องก่อนนอน” ทำได้สำเร็จ 85% แม่นยำขึ้นจากเวอร์ชันเก่า

    ตัวเลขเด็ดที่จำได้ง่าย: จากรายงานของ Apple ปี 2024 ผู้ใช้ Siri ทั่วโลกมีมากกว่า 1.5 พันล้านคนต่อปี และหลังอัปเกรด AI คาดว่าการใช้งานจะเพิ่มขึ้น 30-40% โดยเฉพาะในงานสร้างสรรค์อย่างเขียนอีเมลหรือแต่งเพลงเบื้องต้น อีกเคสจากบริษัท Adobe ที่ร่วมทดสอบ พบว่า Siri ช่วยออกแบบกราฟิกง่ายๆ ได้เร็วขึ้น 2 เท่า สำหรับนักเรียนไทยที่ใช้ iPad เรียนออนไลน์ นี่หมายถึงการช่วยทำรายงานวิจัยโดยสรุปแหล่งข้อมูลได้ทันที

    นอกจากนี้ ในไทย Apple กำลังทดสอบภาษาไทยกับ Siri ใหม่ โดยใช้ข้อมูลจากผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้การตอบคำถามท้องถิ่นอย่าง “ห้างไหนใกล้ๆ มีโปรโมชั่น iPhone” จะแม่นยำขึ้นมาก

    ข้อจำกัด ข้อควรระวัง และทางเลือกใกล้เคียง

    ถึงจะน่าตื่นเต้น แต่การอัปเกรด Siri AI ก็มีข้อจำกัดนะครับ ประการแรกคือต้องใช้ฮาร์ดแวร์ใหม่ เช่น iPhone 15 Pro ขึ้นไป หรือ iPad ที่มีชิป A17 Bionic มิฉะนั้นฟีเจอร์ AI บางตัวจะไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ใช้เครื่องเก่าอย่าง iPhone 12 อาจรู้สึกกดดันต้องอัพเครื่อง ข้อควรระวังคือเรื่องความเป็นส่วนตัว แม้ Apple จะยืนยันว่าไม่เก็บข้อมูล แต่ AI ยังอาจ “เรียนรู้” จากพฤติกรรมผู้ใช้ ถ้าคุณใช้ Siri เรื่อง敏感 อย่างสุขภาพ ควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้ดี

    ทางเลือกใกล้เคียงสำหรับคนที่รอไม่ไหว? ลอง Google Assistant บน Android ที่มี AI Gemini รองรับการสนทนาซับซ้อนคล้ายกันแล้ว หรือ ChatGPT app ที่ดาวน์โหลดฟรีและเชื่อมต่อกับ Siri ได้ผ่าน Shortcuts แต่ข้อเสียคือไม่ integrate ลึกเท่า Siri บนระบบ Apple อีกตัวคือ Alexa จาก Amazon ที่เก่งเรื่องสมาร์ทโฮม แต่ยังไม่ฉลาดเรื่องบริบทเท่า ถ้าคุณใช้ MacBook ลองใช้ Copilot จาก Microsoft ที่ผสานกับ Windows ได้ดี

    สรุปคือ รอ Siri ใหม่คุ้ม แต่ถ้าต้องการตอนนี้ ทางเลือกเหล่านี้ช่วยได้ชั่วคราว

    อธิบายศัพท์เทคนิคสั้นๆ

    • Apple Intelligence: ชื่อเรียกระบบ AI ของ Apple ที่รวมเครื่องมืออัจฉริยะเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้อุปกรณ์เข้าใจและตอบสนองต่อผู้ใช้แบบส่วนตัว โดยไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอกมากนัก
    • Multi-step Tasks: ฟีเจอร์ที่ให้ AI ทำหลายขั้นตอนติดต่อกัน เช่น วางแผนทริปโดยจองตั๋วและเช็คสภาพอากาศในคราวเดียว ไม่ต้องสั่งทีละอย่าง
    • Hallucinations ใน AI: ปัญหาที่ AI ตอบข้อมูลผิดหรือแต่งเรื่องขึ้นมาเอง เช่น บอกวันที่เหตุการณ์ผิด เพราะ AI “เดา” จากข้อมูลไม่ครบถ้วน Apple กำลังแก้ไขจุดนี้เพื่อความแม่นยำ
    • On-device AI: การรัน AI บนตัวเครื่องโดยตรง ไม่ต้องเชื่อมอินเทอร์เน็ตตลอด ทำให้เร็วและปลอดภัยกว่าแบบ cloud-based
    • WWDC: ย่อมาจาก Worldwide Developers Conference งานใหญ่ประจำปีของ Apple ที่ประกาศฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้开发者และผู้ใช้ทั่วไปรู้ล่วงหน้า

    บทสรุป: ทิศทางอนาคตของ Siri และมุมมองไทย

    ปิดท้ายด้วยแนวโน้มกันครับ การอัปเกรด Siri ด้วย AI นี้ชี้ให้เห็นว่า Apple กำลังมุ่งสู่ยุค “AI สำหรับทุกคน” ที่ผู้ช่วยไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นเพื่อนคู่คิดจริงๆ คาดว่าปี 2026 Siri จะ integrate กับ AR/VR อย่าง Vision Pro ได้ลึกซึ้งขึ้น เปลี่ยนการใช้งานจากพูดสั่งเป็น “สนทนาแบบมนุษย์” สำหรับประเทศไทย นี่คือโอกาสใหญ่เพราะตลาด AI ในเอเชียกำลังบูม รัฐบาลไทยมีแผนส่งเสริม digital economy ผ่านโครงการ Thailand 4.0 ถ้า Apple เร่งเปิดตัว Siri ภาษาไทยเต็มรูปแบบ ผู้ประกอบการ SME และนักเรียนจะได้ประโยชน์มหาศาล ลองจับตาดูอัพเดท iOS 19 ปลายปีนี้สิครับ อาจมีเซอร์ไพรส์!

    ถ้าคุณมีประสบการณ์ใช้ Siri บอกกันได้นะ ว่าอยากเห็นฟีเจอร์อะไรเพิ่ม? อย่าลืมแชร์บทความนี้ถ้าชอบ!

    ทิ้งคำตอบไว้

    กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
    กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

    Must Read

    spot_img
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า