ในโลกที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน SpaceX กำลังเร่งขยายเครือข่าย Starlink ด้วยการยิงดาวเทียมเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 บริษัทยิงดาวเทียม Starlink 28 ลูกจากฐานยิงที่แคลิฟอร์เนีย และตามด้วยอีก 29 ลูกจากฟลอริดาในวันที่ 29 ตุลาคม ข่าวนี้สำคัญเพราะ Starlink กำลังเปลี่ยนโฉมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลที่เน็ตแบบดั้งเดิมเข้าถึงยาก ทำให้คนไทยในชนบทหรือนักเดินทางผจญภัยมีโอกาสใช้เน็ตเร็วมากขึ้น.
การยิงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนใหญ่ที่ SpaceX ตั้งใจจะมีดาวเทียมกว่า 40,000 ลูกในอนาคตใกล้ ช่วยให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ล่าช้าต่ำ ครอบคลุมเกือบทุกมุมโลก ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้กว่า 6 ล้านคนใน 60 ประเทศแล้ว.

อะไรใหม่ เกิดอะไรขึ้น ใครเกี่ยวข้อง
SpaceX ซึ่งก่อตั้งโดย Elon Musk ผู้ชายที่ชื่อนี้ดังในวงการเทคโนโลยีและอวกาศ เป็นบริษัทนำในการพัฒนาจรวดและดาวเทียม ล่าสุดพวกเขายิงดาวเทียม Starlink Group 11-21 จำนวน 28 ลูกจากฐาน Vandenberg Space Force Base ในแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 เวลา 8:43 น. EDT โดยใช้จรวด Falcon 9 Booster B1082 ซึ่งเป็นครั้งบินที่ 17 ของตัวนี้.
หลังจากนั้นไม่กี่วัน วันที่ 29 ตุลาคม SpaceX ยิงอีก 29 ลูกจาก Cape Canaveral Space Force Station ในฟลอริดา ด้วย Falcon 9 Booster B1083 ครั้งบินที่ 15 ทำให้เป็นการยิงครั้งที่ 138-139 ในปีนี้ และ 99% ของภารกิจทั้งหมดมุ่งไปที่ Starlink โดยตรง ดาวเทียมเหล่านี้เป็นรุ่น V2 Mini Optimized น้ำหนักประมาณ 260 กก. ต่อลูก ส่งขึ้นสู่วงโคจรต่ำ (LEO) ที่ความสูง 340-550 กม. เพื่อเชื่อมต่อกันแบบเมกะคอนสเตลเลชัน (megaconstellation).
Elon Musk และทีม SpaceX เป็นผู้เล่นหลัก โดยบริษัทได้ยิงดาวเทียมรวมกว่า 10,000 ลูกแล้ว มีที่ใช้งานจริงกว่า 8,700 ลูก ช่วยขยายการครอบคลุมจากอเมริกาเหนือ ยุโรป ไปยังเอเชียและอื่นๆ รัฐบาลสหรัฐฯ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านฐานยิงของ Space Force.
ผลกระทบและประโยชน์ต่อผู้ใช้ ธุรกิจ และอุตสาหกรรม
การเพิ่มดาวเทียม Starlink 28-29 ลูกนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เครือข่าย โดยลดช่องว่างการเชื่อมต่อในพื้นที่ห่างไกล เช่น ชนบทหรือทะเล ผู้ใช้ทั่วไปอย่างวัยรุ่นหรือนักเรียนในไทยที่อยู่ต่างจังหวัด จะได้เน็ตความเร็ว 100-200 Mbps ล่าช้าแค่ 20-40 ms เหมาะสำหรับสตรีมมิง เรียนออนไลน์ หรือเล่นเกม โดยไม่ต้องพึ่งเสาโทรศัพท์.
สำหรับธุรกิจ Starlink ช่วยบริษัทโลจิสติกส์หรือการขนส่งทางทะเล เพราะเรือสินค้าสามารถเชื่อมต่อข้อมูลเรียลไทม์ได้ทุกที่ ลดต้นทุนการสื่อสาร อุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลกได้รับผลกระทบเชิงบวกและลบ โดย Starlink แย่งส่วนแบ่งตลาดจากผู้ให้บริการดั้งเดิมอย่าง Comcast หรือ AIS ในไทย แต่ก็เปิดโอกาสให้เกิดพันธมิตรใหม่ เช่น การใช้ Starlink ร่วมกับ 5G.
ในระดับอุตสาหกรรมอวกาศ การยิงบ่อยครั้งของ SpaceX (เกือบทุกวัน) ทำให้ต้นทุนลดลง Booster Falcon 9 ถูกนำกลับมาใช้ซ้ำได้ 15-17 ครั้ง ช่วยให้ราคายิงถูกแค่ 60 ล้านดอลลาร์ต่อครั้ง ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Blue Origin ต้องเร่งพัฒนา และอุตสาหกรรมโดยรวมเติบโต โดย SpaceX ยิงมากกว่า 70% ของการยิงทั้งโลกในปี 2025.

ในปี 2025 นี้ มีดาวเทียมนับพันดวงอยู่ในวงโคจรต่ำของโลก เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก
ตัวอย่างการใช้งาน เคสจริง และตัวเลขเด่น
ลองนึกภาพชาวประมงไทยที่ออกทะเลไกลๆ ในอ่าวไทย ถ้าใช้ Starlink พวกเขาสามารถอัปเดตสภาพอากาศ ส่งภาพปลาสดๆ ไปขายได้ทันที ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ตัวอย่างจริงคือ ในปี 2025 Starlink ขยายบริการไป 42 ประเทศใหม่ รวมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีผู้ใช้เพิ่ม 2.7 ล้านคนทั่วโลก.
เคสที่น่าจดจำคือการช่วยเหลือในยูเครนตั้งแต่ปี 2022 Starlink ให้อินเทอร์เน็ตแก่ผู้ลี้ภัยและทหาร ทำให้สื่อสารและรับข่าวสารได้ โดยตอนนี้มีผู้ใช้กว่า 6 ล้านคน สร้างรายได้ให้ SpaceX กว่า 5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ตัวเลขเด่นอีกอย่างคือ ในเดือนตุลาคม 2025 SpaceX ยิง Starlink 8 ครั้งจากแคลิฟอร์เนีย และอีกหลายครั้งจากฟลอริดา รวมดาวเทียมใหม่กว่า 200 ลูก.
สำหรับไทย มีเคสทดสอบ Starlink ในพื้นที่ภูเขาเหนือ โดยหน่วยงานรัฐอย่าง กสทช. กำลังพิจารณาใช้เสริมเน็ตชายขอบ ช่วยนักเรียนห่างไกลเรียนออนไลน์ได้ดีขึ้น ตัวเลขสำคัญคือ Starlink มีดาวเทียมใช้งาน 8,460 ลูก จากทั้งหมด 8,475 ลูกที่ยิงไป.
ข้อจำกัด ข้อควรระวัง และทางเลือกใกล้เคียง
ถึง Starlink จะเจ๋ง แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ต้องมีจานรับสัญญาณขนาดเล็ก (Dishy McFlatface) ติดตั้งกลางแจ้ง ไม่โดนต้นไม้หรืออาคารบัง มิเช่นนั้นสัญญาณจะขาดหาย และราคาเริ่มต้น 499 ดอลลาร์บวกค่าสมัครรายเดือน 99 ดอลลาร์ อาจแพงสำหรับคนไทยทั่วไป.
ข้อควรระวังคือผลกระทบต่อดาราศาสตร์ ดาวเทียมจำนวนมากอาจรบกวนการสังเกตดาว โดยนักดาราศาสตร์รายงานว่าแสงสะท้อนจาก Starlink ทำให้ภาพถ่ายท้องฟ้ามืดลง 10-20% นอกจากนี้ การชนกันในอวกาศก็เป็นความเสี่ยง ถ้าดาวเทียมเก่าตกไม่หมด.
ทางเลือกใกล้เคียงคือ OneWeb จากอังกฤษ ที่มีดาวเทียมกว่า 600 ลูก เน้นธุรกิจมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป หรือ Amazon’s Project Kuiper ที่กำลังทดสอบ คาดยิง 3,000 ลูกในปีหน้า ในไทย ยังมีบริการดาวเทียมจาก Thaicom แต่ครอบคลุมน้อยกว่าและล่าช้าสูงกว่า.
คำศัพท์เทคนิคอธิบายง่ายๆ
- Low Earth Orbit (LEO): วงโคจรต่ำใกล้โลก ประมาณ 300-600 กม. จากพื้นดิน ทำให้สัญญาณเน็ตเร็วและล่าช้าต่ำ ต่างจากวงโคจรสูงที่ใช้เวลาเดินทางสัญญาณนาน.
- Megaconstellation: กลุ่มดาวเทียมขนาดยักษ์นับพันลูกที่เชื่อมต่อกัน สร้างเครือข่ายเน็ตแบบต่อเนื่องทั่วโลก เหมือนตาข่ายยักษ์ลอยฟ้า.
- Falcon 9 Booster: ชั้นล่างของจรวดที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง ลดต้นทุนการยิง เหมือนรถบรรทุกที่เอากลับมาขับใหม่แทนซื้อใหม่ทุกที.
- V2 Mini Optimized: รุ่นดาวเทียม Starlink ขนาดกะทัดรัด ปรับปรุงให้มีเลเซอร์เชื่อมต่อระหว่างดาวเทียม เพิ่มความเร็วและครอบคลุม.
- Latency: เวลาล่าช้าในการส่งข้อมูล ต่ำแค่ 20 ms ใน Starlink หมายถึงเล่นเกมหรือวิดีโอคอลไม่สะดุด ต่างจากเน็ตดาวเทียมเก่าที่ล่าช้า 600 ms.
บทสรุป
การยิงดาวเทียม Starlink 28-29 ลูกนี้เป็นสัญญาณว่า SpaceX กำลังเร่งสู่เป้าหมาย 40,000 ลูกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทิศทางอนาคตคืออินเทอร์เน็ตดาวเทียมจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ช่วยลดช่องว่างดิจิทัลทั่วโลก สำหรับประเทศไทย นี่อาจเป็นโอกาสทองให้รัฐบาลนำมาใช้ในโครงการเน็ตประชารัฐ เช่น พื้นที่ชายแดนใต้หรือหมู่เกาะ ทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม.
ถ้าคุณสนใจเรื่องจรวดนำกลับใช้ได้ ลองอ่านบทความเก่า [internal link: เทคโนโลยีจรวด reusable ของ SpaceX] หรือดูข้อมูลจาก SpaceX [external link: https://www.spacex.com/launches]. อนาคตอวกาศใกล้ตัวขนาดนี้ ใครจะรู้ บางทีไทยเราอาจมีฐานยิงดาวเทียมเองในไม่ช้า!

