เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2025 บริษัท Shield AI ได้เปิดตัว X-BAT เครื่องบินขับไล่ไร้คนขับควบคุมด้วย AI ที่สามารถขึ้น-ลงแนวตั้ง (VTOL) โดยไม่ต้องพึ่งพารันเวย์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิวัติกำลังทางอากาศยุคใหม่ เครื่องบินลำนี้ออกแบบมาสำหรับปฏิบัติการในพื้นที่ทะเลและการรบแบบรวดเร็ว โดยใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมอัตโนมัติ Hivemind ของ Shield AI ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วในสนามรบจริง
ความสามารถเด่นที่เปลี่ยนเกมการรบทางอากาศ
X-BAT โดดเด่นด้วยการผสมผสานความสามารถสี่ประการที่ไม่เคยมีมาก่อนในเครื่องบินขับไล่อัตโนมัติ ได้แก่ การขึ้น-ลงแนวตั้ง ระยะทางไกล ความสามารถหลายภารกิจ และระบบอัตโนมัติขั้นสูง เครื่องบินสามารถบินได้ไกลกว่า 2,000 ไมล์ทะเล (รัศมีการรบประมาณ 1,000 ไมล์ทะเล) พร้อมน้ำหนักบรรทุกภารกิจเต็มรูปแบบ และทะยานสูงถึง 50,000 ฟุต ด้วยความเร็วที่เหนือเสียง X-BAT สามารถปฏิบัติภารกิจตั้งแต่การโจมตีพื้นดินไปจนถึงการป้องกันทางอากาศ
ที่สำคัญคือ X-BAT สามารถปฏิบัติการจากเรือรบ เกาะขนาดเล็ก หรือพื้นที่แคบๆ โดยใช้พื้นที่เพียง 1 ใน 3 ของเครื่องบินขับไล่แบบดั้งเดิม การออกแบบรูปทรงแบบ cranked-arrow ช่วยลดค่า RCS (Radar Cross Section) ทำให้ตรวจจับได้ยากขึ้น

ระบบ AI Hivemind หัวใจของความอัตโนมัติ
เทคโนโลยีหลักของ X-BAT คือระบบ Hivemind ซึ่งเป็น AI pilot ที่ได้รับการพิสูจน์ในสนามรบแล้ว ระบบนี้ช่วยให้ X-BAT สามารถบินและรบได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสัญญาณ GPS หรือการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ซึ่งเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่ถูกรบกวนหรือตัดการติดต่อ (denied, degraded, or disconnected environments)
คำศัพท์เทคนิค:
- VTOL (Vertical Take-Off and Landing): ความสามารถในการขึ้น-ลงแนวตั้งโดยไม่ต้องใช้รันเวย์
- Hivemind: ซอฟต์แวร์อัตโนมัติของ Shield AI ที่ใช้ AI ควบคุมการบินและการรบ
- CCA (Collaborative Combat Aircraft): แนวคิดเครื่องบินอัตโนมัติที่บินร่วมกับเครื่องบินมีคนขับ
- OODA Loop: กระบวนการตัดสินใจแบบ Observe-Orient-Decide-Act ที่ AI ทำได้เร็วกว่ามนุษย์
- RCS (Radar Cross Section): พื้นที่หน้าตัดเรดาร์ที่สะท้อนกลับ ยิ่งต่ำยิ่งตรวจจับยาก
Hivemind ช่วยให้ X-BAT สามารถทำงานร่วมกับเครื่องบินมีคนขับ ปฏิบัติยุทธวิธีร่วมกัน และตัดสินใจด้วยความเร็วของเครื่องจักร (machine-speed OODA loops) กองทัพอากาศสหรัฐฯ เคยใช้ Hivemind ควบคุมเครื่องบินทดสอบ X-62A VISTA ซึ่งเป็น F-16 ดัดแปลง และแม้กระทั่งทำการต่อสู้ทางอากาศแบบอัตโนมัติได้สำเร็จ
ตอบโจทย์ภัยคุกคามจากจีนและยุทธศาสตร์ต่อต้านการเข้าถึง
การพัฒนา X-BAT ตอบโจทย์โดยตรงต่อยุทธศาสตร์ Anti-Access/Area Denial (A2/AD) ของจีนที่มุ่งโจมตีรันเวย์และฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ ก่อนที่เครื่องบินจะขึ้นบินได้ Armor Harris รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมของ Shield AI กล่าวว่า “จีนสร้างฟองสบู่ต่อต้านการเข้าถึงที่คุกคามรันเวย์ของเรา พวกเขาบอกว่า ‘เราจะไม่แข่งกับคุณในอากาศแบบ stealth-on-stealth แต่จะโจมตีเครื่องบินคุณก่อนที่มันจะขึ้นบินได้'”
ความสามารถ VTOL ของ X-BAT ช่วยแก้ปัญหานี้ด้วยการเคลื่อนย้ายตำแหน่งการปฏิบัติการตลอดเวลา ทำให้ยากต่อการโจมตีทำลายล่วงหน้า Brandon Tseng ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน Shield AI (อีกทั้งเป็นอดีตหน่วย Navy SEAL) กล่าวว่า “กำลังทางอากาศที่ไม่ต้องพึ่งรันเวย์คือจอกศักดิ์สิทธิ์ของการยับยั้ง มันให้ความมั่นคง ระยะการปฏิบัติการ และความอยู่รอด และเป็นการซื้อเวลาให้การทูตอีกหนึ่งวัน”
ไทม์ไลน์การพัฒนาและเป้าหมายการผลิต
Shield AI มีแผนพัฒนา X-BAT อย่างรวดเร็ว โดยภายใน 18 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานได้ผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลม การทดสอบเครื่องยนต์ และการทดสอบค่า RCS แล้ว ขณะนี้โครงสร้างหลัก (structural pathfinder) อยู่ระหว่างการผลิต
กำหนดการสำคัญ:
- 2026: เที่ยวบินทดสอบ VTOL ครั้งแรก
- 2028: บรรลุความสามารถปฏิบัติภารกิจ (mission capability)
- 2029: เข้าสู่การผลิตและพร้อมรบ
Shield AI ระบุว่า X-BAT จะมีประสิทธิภาพระดับเจนเนอเรชั่นที่ 5 หรือ 6 แต่มีต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวของเครื่องบินขับไล่แบบดั้งเดิม บริษัทได้เริ่มเจรจากับหน่วยงานลูกค้า (น่าจะเป็นกองทัพสหรัฐฯ และพันธมิตร) ตั้งแต่ต้นปี 2025 และดำเนินไปได้ราบรื่น
ผลกระทบต่อตลาด CCA และอนาคตกำลังทางอากาศ
X-BAT เข้าสู่ตลาด Collaborative Combat Aircraft (CCA) ที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้คัดเลือก Anduril และ General Atomics ให้แข่งขันในโปรแกรม CCA Increment 1 แล้ว แม้ Shield AI ยังไม่เปิดเผยว่าจะเข้าแข่งขันใน Increment 2 หรือไม่ แต่ความสามารถที่โดดเด่นของ X-BAT อาจทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
จุดเด่นที่ทำให้ X-BAT แตกต่างจากคู่แข่ง คือการผสมผสาน VTOL กับระยะทางไกลและความเร็วเหนือเสียง ซึ่งไม่มีแพลตฟอร์มอื่นในระดับเดียวกันทำได้ ความสามารถนี้เปิดโอกาสให้ปฏิบัติการจากเรือโจมตีสะเหนิดน้ำ (amphibious assault ships) เกาะเล็กๆ ในแปซิฟิก หรือฐานชั่วคราวในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย
สำหรับบริบทประเทศไทย แนวคิด VTOL fighter อย่าง X-BAT อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในอนาคต เนื่องจากประเทศไทยมีพื้นที่กระจายตัวทั้งภาคพื้นและหมู่เกาะในทะเลอันดามันและอ่าวไทย การมีเครื่องบินขับไล่ที่ไม่ต้องพึ่งรันเวย์ขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการปกป้องอธิปไตยทางทะเลและการรักษาความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีนี้เข้าสู่ตลาดและมีราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้นในทศวรรษหน้า

