นักดาราศาสตร์สเปนเพิ่งปิดฉากหนึ่งในความสำเร็จที่น่าทึ่งที่สุดของวิทยาศาสตร์อวกาศ เมื่อสามารถติดตามเส้นทางการเดินทางของดาวหางระหว่างดวงดาว “3I/ATLAS” ย้อนไปถึง 10 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเปิดหน้าต่างสู่อดีตของจักรวาลในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
การค้นพบนักเดินทางข้ามดวงดาว
ดาวหาง 3I/ATLAS ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2025 โดยกล้องโทรทรรศน์ ATLAS (Asteroid Terrestrial-impact Last Alert System) ที่ประเทศชิลี เป็นวัตถุท้องฟ้าชิ้นที่สามที่ได้รับการยืนยันว่ามาจากนอกระบบสุริยะของเรา หลังจาก ‘Oumuamua และ 2I/Borisov
สิ่งที่ทำให้ดาวหาง 3I/ATLAS พิเศษกว่าคือมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก ถึง 137,000 ไมล์ต่อชั่วโมง (221,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และติดตามวิถีโคจรแบบไฮเปอร์โบลา ซึ่งหมายความว่ามันไม่ได้ถูกแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์จับ แต่จะผ่านระบบสุริยะของเราไปและหายไปในอวกาศระหว่างดวงดาวตลกไป

Credit:NASA, ESA, D. Jewitt (UCLA); Image Processing: J. DePasquale (STScI)
การเดินทาง 10 ล้านปีแห่งการค้นหา
ทีมนักวิจัยจากศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (CITIC) มหาวิทยาลัย A Coruña ประเทศสเปน นำโดย Xabier Pérez Couto ได้สร้างความมหัศจรรย์ทางวิทยาศาสตร์ด้วยการสร้างแบบจำลองเส้นทางการเดินทางของดาวหางนี้ย้อนหลังไป 10 ล้านปี
“ดาวหางนี้ไม่ได้เกิดในระบบสุริยะของเรา แต่เกิดที่ไกลออกไปมาก” Pérez Couto อธิบาย การวิจัยชิ้นนี้เปรียบเสมือนการ “กรอเวลาแห่งกาแล็กซี่ย้อนกลับ” เพื่อติดตามการเดินทางอันยาวนานของมันข้ามทางช้างเผือก
นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Oxford ชี้ให้เห็นว่าดาวหาง 3I/ATLAS อาจเป็นดาวหางที่เก่าแก่ที่สุดที่เราเคยพบ โดยมีอายุมากกว่า 7 พันล้านปี ซึ่งเก่ากว่าระบบสุริยะของเราถึง 3 พันล้านปี การวิเคราะห์วิถีโคจรแสดงว่ามันมาจาก “thick disk” ของทางช้างเผือก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีดาวเก่าแก่โคจรอยู่เหนือและใต้ระนาบบางๆ ที่ดวงอาทิตย์และดาวส่วนใหญ่อาศัยอยู่
ห้องแล็บธรรมชาติแห่งอวกาศ
สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ ดาวหาง 3I/ATLAS กำลังแสดงพฤติกรรมเหมือนดาวหางทั่วไปเมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ โดยปล่อยเจ็ตของน้ำแข็งและฝุ่นออกมา นักวิทยาศาสตร์สังเกตเห็นเจ็ตนี้ในเดือนสิงหาคมผ่านการรวมภาพ 159 ภาพที่ถ่ายจากกล้องโทรทรรศน์ Two-meter Twin ที่หอดูดาว Teide ในหมู่เกาะคานารี
“ดาวหางระหว่างดวงดาวแต่ละดวงเปรียบเสมือนหน้าต่างที่เปิดสู่อดีตของจักรวาล” Pérez Couto อธิบายถึงความสำคัญ “มันช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์วัสดุที่เกิดขึ้นรอบดาวดวงอื่นๆ ภายใต้สภาวะที่แตกต่างจากดวงอาทิตย์อย่างมาก นี่เป็นโอกาสที่ไม่เหมือนใคร”

โอกาสทางวิทยาศาสตร์ที่หาไม่ได้
ขณะนี้ดาวหาง 3I/ATLAS กำลังเดินทางเข้าใกล้จุดที่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม 2025 โดยจะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 1.8 หน่วยดาราศาสตร์ สำหรับโลก ดาวหางจะเข้าใกล้ที่สุดในวันที่ 19 ธันวาคม 2025 ที่ระยะ 269 ล้านกิโลเมตร ซึ่งปลอดภัยสำหรับเรา
ที่น่าตื่นเต้นคือยานอวกาศสองลำ คือ Hera และ Europa Clipper มีโอกาสที่จะบินผ่านหางของดาวหาง 3I/ATLAS ในระยะประมาณ 5 ล้านไมล์ การบินผ่านนี้จะให้โอกาสนักวิทยาศาสตร์ในการรวบรวมข้อมูลอันมีค่าจากอนุภาคที่ถูกพัดออกมาโดยลมสุริยะ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เราได้ข้อมูลโดยตรงจากหางของดาวหางระหว่างดวงดาว
อนาคตของการสำรวจอวกาศ
การศึกษาดาวหาง 3I/ATLAS ไม่เพียงแต่เปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกาแล็กซี่ แต่ยังเป็นการทดสอบขีดความสามารถของเทคโนโลยีการติดตามและวิเคราะห์วัตถุท้องฟ้าของเรา การที่นักวิจัยสามารถย้อนรอยเส้นทาง 10 ล้านปีได้แสดงให้เห็นถึงพลังของการคำนวณสมัยใหม่และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับกลศาสตร์ท้องฟ้า
นักดาราศาสตร์คาดหวังว่าการศึกษาดาวหางระหว่างดวงดาวเช่น 3I/ATLAS จะช่วยตอบคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์และชีวิต รวมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบดาวดวงอื่นๆ ในกาแล็กซี่ การที่เราสามารถสังเกตและวิเคราะห์ “แคปซูลเวลา” ธรรมชาติเหล่านี้ได้ เปรียบเสมือนการได้รับจดหมายจากอนาคตที่เล่าเรื่องราวของจักรวาลในยุคที่เราไม่เคยได้สัมผัส

