สำหรับโลกของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ข่าวใหญ่จากประเทศจีนเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2025 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงการวิจัยระดับแนวหน้าของโลก เมื่อประเทศมังกรได้เปิดตัวเครื่องหมุนเหวี่ยงขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ โดยสามารถสร้างแรงโน้มถ่วงได้มากถึง 300 เท่าของโลก และรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 ตัน ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิวัติในหลากหลายสาขาวิชา ตั้งแต่การสกัดทรัพยากรใต้ท้องทะเลลึก ไปจนถึงการสังเคราะห์วัสดุใหม่ที่ก้าวล้ำ
รู้จักกับ CHIEF1300 เครื่องยนต์แห่งอนาคต
เครื่องหมุนเหวี่ยงยักษ์ที่มีรหัสว่า CHIEF1300 นี้ เป็นหัวใจหลักของ Centrifugal Hypergravity and Interdisciplinary Experiment Facility (CHIEF) ที่กำลังก่อสร้างในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง โดยโครงสร้างหลักประกอบด้วยแขนหมุนขนาดยักษ์ที่มีรัศมียาว 6.4 เมตร ซึ่งติดตั้งอยู่ในห้องใต้ดินกลมขนาด 230 ตารางเมตร
สิ่งที่ทำให้ CHIEF1300 พิเศษคือการออกแบบที่ลดความต้านทานของอากาศและการระบายความร้อน โดยเครื่องถูกติดตั้งใต้ระดับพื้นดิน พร้อมระบบสุญญากาศและระบบทำความเย็นผนัง ซึ่งช่วยให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

เครื่องนี้ รหัส CHIEF1300 เป็นส่วนประกอบหลักของศูนย์ทดลองแรงโน้มถ่วงสูงและสหสาขาวิชา (CHIEF) ที่กำลังก่อสร้างในหางโจว มณฑลเจ้อเจียง
เครื่องนี้สามารถใช้ทำการวิจัยชั้นนำในหลายสาขา เช่น การสกัดทรัพยากรจากท้องทะเลลึกและใต้พื้นโลก การบรรเทาและป้องกันภัยพิบัติ การกำจัดขยะใต้ดิน รวมถึงการสังเคราะห์วัสดุใหม่ๆ. | Credit : Xinhua/Huang Zongzhi
ทำความรู้จักกับ “ไฮเปอร์แกรวิตี้”
ไฮเปอร์แกรวิตี้ หมายถึงแรงโน้มถ่วงที่แรงกว่าแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เวลาเราขึ้นรถไฟเหาะ เราจะรู้สึกถึงแรงกดประมาณ 2 เท่าของแรงโน้มถ่วงโลก ส่วนนักบินอวกาศตอนปล่อยจรวดจะรับแรงกดประมาณ 5 เท่า แต่ CHIEF1300 สามารถสร้างแรงได้ถึง 300 เท่า และเมื่อก่อสร้างเสร็จสิ้นทั้งหมด จะสามารถสร้างแรงได้สูงสุด 1,500 เท่าของโลก
การทำงานของเครื่องนี้เปรียบเสมือน “เครื่องบีบอัดกาล-เวลา” ที่สามารถเร่งกระบวนการทางธรรมชาติที่ปกติใช้เวลาหลายทศวรรษหรือหลายศตวรรษ ให้เกิดขึ้นได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ตัวอย่างเช่น ที่แรงโน้มถ่วง 100 เท่า กระบวนการที่ใช้เวลา 100 ปีในธรรมชาติ จะสามารถสังเกตได้ในห้องทดลองเพียง 3.65 วัน
การประยุกต์ใช้งานที่หลากหลาย
การวิจัยทางธรณีวิทยาและวิศวกรรม
CHIEF1300 สามารถจำลองแผ่นดินไหวรุนแรงเพื่อทดสอบความแข็งแรงของฐานรากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ รวมถึงจำลองผลกระทบของสึนามิต่อพื้นท้องทะเล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการเลือกทำเลที่ตั้งของฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งได้อย่างแม่นยำ
การสกัดทรัพยากรใต้ท้องทะเลลึก
เครื่องสามารถจำลองความดันในระดับความลึก 2,000 เมตรใต้ท้องทะเล เพื่อประเมินความปลอดภัยในการสกัดมีเทนไฮเดรต (Methane Hydrate) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่สำคัญในอนาคต
การสังเคราะห์วัสดุใหม่
ภายใต้สภาวะไฮเปอร์แกรวิตี้ นักวิจัยสามารถสังเคราะห์โลหะผสมที่มีข้อบกพร่องน้อย แข็งแรง และยืดหยุ่นสูง ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาวัสดุใหม่ที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านการวิจัยไฮเปอร์แกรวิตี้
ด้วยความสามารถที่ 1,300 g-t (แรงโน้มถ่วง × ตัน) CHIEF1300 ได้แซงหน้าเครื่องหมุนเหวี่ยงที่ใกล้เคียงที่สุดในโลกซึ่งมีความสามารถเพียง 1,200 g-t และเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะมีความสามารถรวมสูงสุดถึง 1,900 g-t
โครงการ CHIEF ทั้งหมดได้รับการลงทุนมากกว่า 2 พันล้านหยวน และเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ของจีน ภายใต้การนำของศาสตราจารย์เฉิน หยุนหมิน จากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ผู้เป็นหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของโครงการ
อนาคตของความร่วมมือระหว่างประเทศ
ศาสตราจารย์เฉิน หยุนหมิน ได้แสดงวิสัยทัศน์ให้ CHIEF1300 เป็นศูนย์กลางการวิจัยระหว่างประเทศ โดยเปิดโอกาสให้นักวิจัยชั้นนำจากทั่วโลกมาร่วมทำการทดลอง เพื่อเร่งการค้นพบและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในสภาวะที่รุนแรง
สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ CHIEF1300 เป็นเพียงเครื่องแรกจากสามเครื่องที่วางแผนไว้ โดยอีกสองเครื่องที่กำลังก่อสร้างจะมีความสามารถที่มากกว่านี้ ซึ่งจะทำให้ศูนย์วิจัยแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระดับโลก

บทสรุป: ก้าวใหม่ของมนุษยชาติ
การเปิดตัว CHIEF1300 ไม่ใช่เพียงแค่ความสำเร็จทางเทคโนโลยีของจีนเท่านั้น แต่เป็นก้าวสำคัญของมนุษยชาติในการทำความเข้าใจธรรมชาติและจักรวาลที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตั้งแต่การแก้ปัญหาภัยพิบัติธรรมชาติ การพัฒนาพลังงานทางเลือก ไปจนถึงการสร้างวัสดุใหม่ที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกของเรา
ในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ปฏิวัติวงการ เกิดขึ้นจากเครื่องยนต์ยักษ์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้างที่แข็งแรงกว่าเดิมหลายเท่า เทคโนโลยีการทำเหมืองใต้ท้องทะเลที่ปลอดภัย หรือแม้กระทั่งการเตรียมพร้อมสำหรับการสำรวจอวกาศในอนาคต

